พุดตานไต้หวัน

 

   
     
     
     
     

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus mutabilis L.

ชื่อสามัญ : Cotton rose, Confederate rose

วงศ์ : Malvaceae

ชื่ออื่น : ดอกสามสี สามผิว (ภาคเหนือ)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5 เมตร ต้นและกิ่งมีขนสีเทา ใบ เดี่ยว ออกสลับ รูปไข่โคนรูปหัวใจ ปลายแหลม ขอบใบเว้าลึก มี 3- 5 แฉก ใบมีขนสาก ดอก ซ้อนใหญ่งามมาก แรกบานมีสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีริ้วประดับ 7- 10 อัน ผล กลม เมื่อแก่แตกเป็น 5 แฉก เมล็ด รูปไต มีขน ออกดอกตลอดปี
ส่วนที่ใช้ : ใบสด หรือใบตากแห้ง ดอก เก็บดอกตอนเริ่มบานเต็มที่ รากเก็บได้ตลอดปี ตากแห้งหรือใช้สดก็ได้

สรรพคุณ :

ยารักษาคางทูม

ยาถอนพิษ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลมีหนอง

ยาแก้งูสวัด

วิธีและปริมาณที่ใช้

ยารักษาคางทูม
- ใช้ใบแห้ง 10-15 ใบ บดให้ละเอียด เติมไข่ขาวผสมให้เข้ากัน เพื่อให้ยาจับกันเป็นแผ่น นำไปพอกปิดบริเวณที่บวมเป็นคางทูม เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะหายบวม
- ใช้ดอก อย่างแห้ง หนัก 3-12 กรัม ใบสด 30-40 กรัม ต้มน้ำรับประทาน ใช้ภายนอก บดเป็นผงผสม หรือใช้สดตำพอก

ยาดถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง
- ใช้ใบสด 3-4 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำมันพืช ใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง

ยาแก้งูสวัด
- ใช้ใบสด 4-5 ใบ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าว ใช้ทาบริเวณที่เป็น ทาบ่อยๆ
- รากใช้เป็นยาทาภายนอก ตำพอกหรือบดเป็นผงผสมพอก

สารเคมี

ใบ มี Flavonoid glycosides , phenol, amino acid, tannin

ดอก มี Flavonoid glycosides
Flavonoid glycosides จะมีปริมาณเปลี่ยนไปตามสีของดอกไม้เมื่อบานเต็มที่ สีแดงจะมี anthocyanin ในตอนที่ดอกมีสีแดงเข้ม จะมีปริมาณของ anthocyanin เป็น 3 เท่าของตอนที่มีดอกเป็นสีชมพู


     

 

 
กลับหน้าหลัก